เฟดยังคงอัตราดอกเบี้ย และชะลอการลดงบดุล: สัญญาณความระมัดระวังท่ามกลางภาวะเศรษฐกิจที่ไม่แน่นอน

อัปเดตเมื่อ 26 มีนาคม 2025

Source: AP Photo/Andrew Harnik

FOMC คงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ 4.25%–4.50%

ในการประชุมเดือนมีนาคมที่ได้รับความสนใจอย่างมาก คณะกรรมการนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (FOMC) ได้ตัดสินใจ คงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ช่วง 4.25%–4.50% แสดงให้เห็นถึงจุดยืนที่ระมัดระวังท่ามกลางสภาพเศรษฐกิจที่ผันผวน

นี่ถือเป็นการ คงดอกเบี้ยเป็นครั้งที่ 5 ติดต่อกัน สะท้อนว่า อัตราเงินเฟ้อยังคงอยู่ในระดับสูง ในขณะที่ สัญญาณชะลอตัวของการเติบโตทางเศรษฐกิจ กระตุ้นให้เฟดต้องใช้ความระมัดระวังมากขึ้นในการดำเนินนโยบายการเงิน

เฟดชะลอการลดงบดุล เริ่มเดือนเมษายน

ในการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญ เฟดประกาศว่าจะ ชะลอการลดขนาดงบดุล (Balance Sheet Runoff) เริ่มตั้งแต่เดือนเมษายนเป็นต้นไป

• การไถ่ถอนพันธบัตรรัฐบาลรายเดือน จะถูกจำกัดอยู่ที่ 5 พันล้านดอลลาร์ ลดลงจาก 25 พันล้านดอลลาร์

• เหตุผลหลักคือเพื่อรักษาเสถียรภาพของตลาดการเงิน และหลีกเลี่ยงการเข้มงวดของสภาพคล่องโดยไม่จำเป็น

  
  

การดำเนินการนี้สะท้อนถึงแนวโน้ม ผ่อนคลายมากขึ้น (Dovish) โดยเน้นการรักษาสภาพคล่องในระบบ และควบคุมความคาดหวังด้านอัตราดอกเบี้ยระยะยาว

ประมาณการเศรษฐกิจ: ปรับลดการเติบโต ปรับเพิ่มเงินเฟ้อ

เฟดยังได้เผยแพร่ สรุปประมาณการเศรษฐกิจ (Summary of Economic Projections) ดังนี้:

การปรับประมาณการครั้งนี้สะท้อนถึงความกังวลว่า เงื่อนไขการเงินที่ตึงตัวและความไม่แน่นอนทั่วโลก อาจส่งผลกระทบต่อการเติบโตทางเศรษฐกิจ ในขณะที่ ภาคบริการและแรงกดดันด้านค่าจ้าง ยังคงผลักดันอัตราเงินเฟ้อ

ผลกระทบต่อตลาด และข้อคิดสำหรับนักลงทุน

นโยบายของเฟดครั้งนี้เป็นสัญญาณ ที่มีหลายมิติ: แม้จะยังคงมุ่งมั่นในการควบคุมเงินเฟ้อ แต่ก็ ตระหนักถึงความเสี่ยงด้านการเติบโตที่ชะลอตัว

ข้อสรุปสำหรับนักลงทุน:

• การชะลอการลดงบดุล อาจส่งผลดีต่อ สินทรัพย์เสี่ยงและตลาดพันธบัตร โดยลดแรงกดดันต่ออัตราผลตอบแทน

• ยังไม่มีสัญญาณลดดอกเบี้ยในระยะสั้น แต่แนวโน้มนี้อาจปูทางไปสู่ การผ่อนคลายในช่วงครึ่งหลังของปี 2025

• เฟดกำลัง รักษาสมดุลระหว่างการควบคุมเงินเฟ้อและการรักษาเสถียรภาพของระบบการเงิน