แนวโน้มตลาดรายสัปดาห์: คำให้การของพาวเวลล์, อัตราเงินเฟ้อ PCE เดือนพฤษภาคม และผลประกอบการสำคัญ

อัปเดตเมื่อ 23 มิถุนายน 2025

ทุกสายตาจับจ้องไปที่คำให้การของพาวเวลล์ต่อสภาคองเกรส

นักลงทุนเตรียมพร้อมสำหรับสัปดาห์ที่มีความสำคัญอย่างยิ่ง ซึ่งข้อมูลเศรษฐกิจมหภาค คำแถลงจากธนาคารกลาง และผลประกอบการของบริษัทขนาดใหญ่จะเป็นปัจจัยร่วมกำหนดทิศทางตลาด ท่ามกลางความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์ที่ยืดเยื้อและแรงกดดันเงินเฟ้อที่ยังไม่คลี่คลาย ตลาดการเงินกำลังเข้าสู่ช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อสำคัญ

เจอโรม พาวเวลล์ ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (Fed) มีกำหนดให้การต่อสภาคองเกรสในวันอังคารและวันพุธ โดยจะนำเสนอรายงานนโยบายการเงินครึ่งปีต่อคณะกรรมาธิการด้านการเงินของสภาผู้แทนราษฎร และคณะกรรมาธิการธนาคารของวุฒิสภา นักลงทุนจะติดตามถ้อยแถลงอย่างใกล้ชิดเพื่อจับสัญญาณความเปลี่ยนแปลงในท่าทีของ Fed แม้ว่าสัปดาห์ก่อนหน้านี้ Fed จะคงอัตราดอกเบี้ยไว้และส่งสัญญาณถึงความเป็นไปได้ที่จะลดดอกเบี้ยเพียงครั้งเดียวในปีนี้ แต่ตลาดยังคงไม่แน่ใจท่ามกลางอัตราเงินเฟ้อที่ยังสูงและภาวะเศรษฐกิจโลกที่ไม่แน่นอน

ตลาดต้องการได้ยินอะไรจากพาวเวลล์

พาวเวลล์คาดว่าจะกล่าวถึงประเด็นหลัก ได้แก่ แนวโน้มเงินเฟ้อ, ความแข็งแกร่งของตลาดแรงงาน และผลกระทบจากการปรับขึ้นภาษีศุลกากรต่อเศรษฐกิจ สัญญาณเล็กน้อยใด ๆ ที่บ่งบอกถึงการเปลี่ยนแปลงทิศทางนโยบาย จะถูกจับตามองอย่างละเอียด ขณะที่ Fed ต้องเดินสมดุลระหว่างการควบคุมเงินเฟ้อกับการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลก

จับตาอัตราเงินเฟ้อ: ข้อมูล PCE เดือนพฤษภาคมกำลังจะเผยแพร่

แม้ว่าคำให้การของพาวเวลล์จะเป็นจุดสนใจในช่วงต้นสัปดาห์ แต่ข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญที่สุดคือรายงานดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) ประจำเดือนพฤษภาคม ซึ่งจะเปิดเผยในวันศุกร์ โดยเป็นตัวชี้วัดอัตราเงินเฟ้อที่ Fed ให้ความสำคัญที่สุด

นักวิเคราะห์คาดว่าดัชนี PCE พื้นฐานจะเพิ่มขึ้นราว 2.6% เมื่อเทียบกับปีก่อน ซึ่งยังสูงกว่าเป้าหมาย 2% ของ Fed หากตัวเลขสูงเกินคาด ความหวังที่จะเห็นการลดดอกเบี้ยในเร็ว ๆ นี้อาจริบหรี่ และความผันผวนในตลาดโดยเฉพาะในกลุ่มสินทรัพย์ที่อ่อนไหวต่ออัตราดอกเบี้ยอาจเพิ่มขึ้น

ผลประกอบการสำคัญ: FedEx, Micron และ Nike

นอกจากปัจจัยทางเศรษฐกิจมหภาคแล้ว ผลประกอบการของบริษัทใหญ่ ๆ ก็จะสะท้อนแนวโน้มของการบริโภคและภาคอุตสาหกรรมที่สำคัญ FedEx จะรายงานผลประกอบการในวันอังคารหลังปิดตลาด โดยนักวิเคราะห์คาดว่ารายได้อาจลดลงเล็กน้อยจากปริมาณการขนส่งที่ชะลอตัวและต้นทุนที่สูงขึ้น

วันพุธจะเป็นคิวของ Micron Technology ที่จะเปิดเผยรายงานท่ามกลางความสนใจอย่างสูงต่ออุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ ความต้องการชิปหน่วยความจำ สถานการณ์คลังสินค้า และการลงทุนในอุตสาหกรรม จะถูกจับตาอย่างใกล้ชิด

Nike จะปิดท้ายสัปดาห์ด้วยผลประกอบการในวันพฤหัสบดี ซึ่งถือเป็นตัวชี้วัดความมั่นใจของผู้บริโภคในระดับโลก แม้ว่าแบรนด์ยังแข็งแกร่ง แต่ต้นทุนการผลิตที่สูงขึ้นและความผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยนยังเป็นปัจจัยกดดันกำไร

ความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์เพิ่มความไม่แน่นอน

การโจมตีทางทหารของสหรัฐฯ ต่อเป้าหมายในอิหร่านเมื่อเร็ว ๆ นี้ ได้เพิ่มระดับความตึงเครียดทั่วโลก ราคาน้ำมันพุ่งสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว และสินทรัพย์ปลอดภัยอย่างทองคำและดอลลาร์สหรัฐกลับมาได้รับความนิยม นักลงทุนเริ่มวิตกว่าการเพิ่มขึ้นของราคาสินค้าโภคภัณฑ์และความไม่สงบทั่วโลกอาจขัดขวางความพยายามของ Fed ในการควบคุมเงินเฟ้อ หรืออาจก่อให้เกิดแรงกดดันเงินเฟ้อรอบใหม่

สรุป: สัปดาห์ที่ชี้ชะตาทิศทางของตลาด

ตลาดกำลังเข้าสู่ช่วงเวลาแห่งความไม่แน่นอนสูงสุด โดยมีคำให้การของพาวเวลล์, รายงานเงินเฟ้อ และผลประกอบการของบริษัทขนาดใหญ่อยู่ในสัปดาห์เดียวกัน ความผันผวนมีแนวโน้มสูงขึ้น นักลงทุนกำลังเฝ้ารอความชัดเจนและทิศทางที่แน่นอนจากปัจจัยทั้งหมดเหล่านี้