
วอลล์สตรีทระมัดระวัง หลังเครดิตของสหรัฐฯ ถูกลดอันดับ ท่ามกลางแรงกดดันต่อตลาดหุ้น
May 19
ใช้เวลาอ่าน 1 นาที
อัปเดตเมื่อ 19 พฤษภาคม 2025

แม้จะมีความคืบหน้าในการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีน ซึ่งส่งผลให้ตลาดหุ้นดีดตัวขึ้นในระยะสั้น แต่นักวิเคราะห์จากวอลล์สตรีทเตือนถึงความเสี่ยงที่เพิ่มสูงขึ้น การผสมผสานระหว่าง ความคาดหวังที่มากเกินไปของนักลงทุน กับ การลดอันดับความน่าเชื่อถือของสหรัฐฯ ล่าสุด ได้จุดประเด็นข้อกังวลเกี่ยวกับความยั่งยืนของการปรับตัวขึ้นของตลาดในปัจจุบัน
ตลาดหุ้นตอบรับเชิงบวกต่อข่าวการค้า แต่ความระมัดระวังยังคงอยู่
หลังจากมีการประกาศพักการเก็บภาษีนำเข้าบางรายการระหว่างสหรัฐฯ และจีน ตลาดหุ้นสหรัฐฯ พุ่งขึ้น โดยเฉพาะหุ้นในกลุ่มเทคโนโลยีและอุตสาหกรรม อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์จากหลายสถาบันเตือนว่า การดีดตัวครั้งนี้อาจล้ำหน้ากว่าปัจจัยพื้นฐานทางเศรษฐกิจ และได้รับแรงหนุนจากอารมณ์ตลาดมากกว่าความแข็งแกร่งที่แท้จริง
นักกลยุทธ์จากบริษัทการลงทุนชั้นนำแนะนำให้ลูกค้าระมัดระวัง โดยระบุว่าความผันผวนยังอยู่ในระดับสูง และความเ สี่ยงเชิงโครงสร้าง เช่น ความยั่งยืนทางการคลัง ยังคงไม่ได้รับการแก้ไข
Moody’s ลดอันดับความน่าเชื่อถือของสหรัฐฯ
ประเด็นที่สร้างความกังวลเพิ่มเติมคือ Moody’s ได้ลดอันดับความน่าเชื่อถือของสหรัฐฯ จาก AAA เป็น Aa1 โดยให้เหตุผลว่า มีการขาดดุลงบประมาณในระดับสูงและหนี้ระยะยาวที่สะสมเพิ่มขึ้น ความเคลื่อนไหวดังกล่าวสะท้อนถึงความกังขาของหน่วยงานจัดอันดับเกี่ยวกับความสามารถของรัฐบาลสหรัฐฯ ในการจัดการด้านการคลัง ภายใต้สถานการณ์ทางการเมืองที่ติดขัดและแรงกดดันด้านนโยบายภาษี
แม้การลดอันดับจะไม่ส่งผลให้ตลาดแตกตื่นในทันที แต่ก็สร้างแรงสั่นสะเทือนในตลาดพันธบัตร และผลักดันให้ผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลอายุ 10 ปีสูงขึ้น ซึ่งหมายถึงต้นทุนการกู้ยืมของรัฐบาลที่เพิ่มขึ้นในช่วงที่งบประมาณตึงตัว
ความยั่งยืนของหนี้กลายเป็นประเด็นหลัก
นักเศรษฐศาสตร์เตือนว่าการลดอันดับครั้งนี้อาจนำไปสู่ผลกระทบลูกโซ่ เนื่องจากต้นทุนการกู้ยืมของรัฐบาลเพิ่มขึ้น อัตราดอกเบี้ยในภาคเอกชนก็อาจสูงขึ้นตาม ซึ่งจะส่งผลต่อสินเชื่อบ้าน เงินกู้ภาคธุรกิจ และการตัดสินใจลงทุ น
การปรับลดอันดับเกิดขึ้นในขณะที่ข้อมูลเงินเฟ้อและความเชื่อมั่นผู้บริโภคล่าสุดบ่งชี้ถึง การฟื้นตัวของเศรษฐกิจที่เปราะบางกว่าที่ตลาดสะท้อนออกมา
บทสรุปสำหรับนักลงทุน: การปรับขึ้นที่มากับความเสี่ยง
ข้อความที่ชัดเจนสำหรับนักลงทุนคือ: อย่าไล่ตามตลาดแบบไม่ลืมหูลืมตา แม้ความคืบหน้าในด้านการค้าจะให้ความโล่งใจในระยะสั้น แต่การฟื้นตัวของตลาดในระยะยาวจะขึ้นอยู่กับว่าผู้กำหนดนโยบายสามารถจัดการกับปัญห าทางการคลังเชิงโครงสร้างได้หรือไม่ และบริษัทต่างๆ สามารถรักษาระดับกำไรภายใต้ต้นทุนทางการเงินที่สูงขึ้นได้หรือไม่
แหล่งที่มา
a) Moody’s Investors Service – Sovereign Credit Rating Action (May 2025)
b) U.S. Department of the Treasury – Federal Debt & Fiscal Reports
c) U.S. Securities and Exchange Commission (SEC) – Regulatory and Market Filings






