รายงานการประชุมของเฟดอาจเผยสัญญาณสำคัญ ท่ามกลางความตึงเครียดด้านภาษีและความผันผวนของตลาด

อัปเดต: 15 เมษายน 2025

ในขณะที่ตลาดทั่วโลกยังคงรับมือกับสัญญาณเศรษฐกิจที่หลากหลายและความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์ สายตาของนักลงทุนทั่วโลกต่างจับจ้องไปที่การเปิดเผยรายงานการประชุมของคณะกรรมการนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (FOMC) ที่จะมีขึ้นในวันนี้ รายงานจากการประชุมวันที่ 19–20 มีนาคมคาดว่าจะให้ข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับจุดยืนของผู้กำหนดนโยบายต่อแนวโน้มการลดอัตราดอกเบี้ยและภาพรวมของเศรษฐกิจในอนาคต

ความหวังในการลดอัตราดอกเบี้ยยังไม่หมดไป

นักลงทุนคาดหวังว่าจะได้รับความชัดเจนว่าเฟดยังคงมีแนวโน้มจะลดอัตราดอกเบี้ยในปีนี้หรือไม่ แม้แรงกดดันด้านเงินเฟ้อจะผ่อนคลายลงบ้าง แต่ความไม่แน่นอนเกี่ยวกับข้อมูลในอนาคตทำให้เฟดยังคงระมัดระวังอยู่ คำแถลงล่าสุดของเจ้าหน้าที่เฟดสะท้อนถึงความเห็นที่แตกต่างกันมากขึ้น โดยบางส่วนสนับสนุนให้คงอัตราดอกเบี้ยสูงไว้นานขึ้นเพื่อควบคุมเงินเฟ้อ ในขณะที่อีกฝ่ายมองว่าควรผ่อนคลายหากภาวะเศรษฐกิจเริ่มชะลอตัว

ความเสี่ยงจากภาษีเพิ่มความซับซ้อน

สิ่งที่ซับซ้อนขึ้นในสมการของเฟดคือความกังวลเกี่ยวกับภาษีที่กลับมาอีกครั้ง ความเป็นไปได้ที่รัฐบาลไบเดนอาจเพิ่มอัตราภาษีศุลกากรต่อสินค้านำเข้าที่สำคัญ โดยเฉพาะจากจีน อาจทำให้เกิดแรงกดดันด้านราคาผ่านห่วงโซ่อุปทานอีกครั้ง ทำให้เกิดความกังวลว่าเงินเฟ้ออาจคงอยู่ในระดับสูงกว่าที่คาด ซึ่งอาจส่งผลให้การลดอัตราดอกเบี้ยต้องชะลอหรือจำกัดขอบเขตมากขึ้นในปีนี้

สิ่งที่ตลาดจับตามอง

นักลงทุนจะจับตาดูรายงานในวันนี้อย่างใกล้ชิดเพื่อหาสัญญาณของความเห็นที่แตกต่างภายใน การประเมินความเสี่ยงทางเศรษฐกิจ และการเปลี่ยนแปลงถ้อยคำใด ๆ ที่อาจบ่งชี้ถึงแนวโน้มการผ่อนคลายทางนโยบาย จุดที่เดิมพันไม่ใช่แค่เรื่องของเวลาในการลดอัตราดอกเบี้ยครั้งแรกเท่านั้น แต่ยังรวมถึงทิศทางของนโยบายการเงินตลอดปี 2025 ด้วย ตลาดล่วงหน้าปัจจุบันประเมินโอกาสของการลดดอกเบี้ยภายในเดือนกันยายนไว้ที่ราว 60–70% แต่แนวโน้มนี้ยังขึ้นอยู่กับข้อมูลเศรษฐกิจและสถานการณ์ภูมิรัฐศาสตร์อย่างมาก

ผลกระทบระดับโลก

นโยบายการเงินของสหรัฐฯ ส่งผลกระทบต่อกระแสเงินทุนทั่วโลก การเปลี่ยนแนวทางของเฟดไปสู่ท่าทีผ่อนคลายอาจส่งผลให้ค่าเงินดอลลาร์อ่อนตัวลงและเพิ่มความต้องการสินทรัพย์เสี่ยง ในทางกลับกัน หากเฟดยังคงท่าทีเข้มงวด ก็อาจสร้างแรงกดดันต่อเศรษฐกิจตลาดเกิดใหม่และสภาพคล่องทั่วโลก เมื่อการเติบโตทั่วโลกได้รับแรงกดดันจากการชะลอตัวของจีนและความขัดแย้งระหว่างประเทศ การตัดสินใจครั้งต่อไปของเฟดจะมีบทบาทสำคัญต่อความเชื่อมั่นของนักลงทุนทั่วโลก